30 ธันวาคม 2559
โดย อะเลซเซีย เจียนอนเชลลี่
เมื่อเดือนที่แล้ว สมาคมนักลงทุนเพื่อสังคมแห่งยุโรป(EVPA) ซึ่งเป็นองค์กรพี่น้องของเครือข่ายนักลงทุนเพื่อสังคมแห่งเอเชีย(AVPN) เปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจในหัวข้อ “สถานะของการให้การร่วมทุน (venture philanthropy: VP) และการลงทุนเพื่อสังคม (VP/SI)ในยุโรป โดย EVPA ประจำปี 2558/2559” ซึ่งเป็นการสำรวจเพื่อวัดความเคลื่อนไหวในภาคการลงทุนเพื่อสังคมในยุโรป รายงานฉบับนี้ได้ให้ข้อมูลสำคัญในการกำหนดเกณฑ์อ้างอิง (benchmark) ขององค์กรต่างๆ และช่วยเหลือองค์กรที่สนใจสร้างผลกระทบทางสังคมเป็นอันดับแรกได้ตามทันองค์กรอื่น การสำรวจจัดทำในกลุ่มนักลงทุนเพื่อสังคมและผู้ให้ทุนที่อยู่ในยุโรป โดยร้อยละ 69 ต้องการผลตอบแทนด้านสังคมมากกว่าด้านการเงิน และร้อยละ 31 นั้นให้ความสำคัญกับผลตอบแทนด้านสังคมและด้านการเงินเท่าๆกัน
เราได้เน้น 7 การค้นพบที่น่าสนใจและแนวโน้มของภาคการร่วมทุนและการลงทุนเพื่อสังคม ดังนี้
ทุกรูปภาพนั้นอ้างถึงปีงบประมาณ (FY) 2558 เว้นแต่จะกล่าวว่าเป็นอย่างอื่น
1. ภาคส่วนนี้ยังคงเติบโตต่อไปแต่จำนวนเงินลงทุนต่อปีโดยเฉลี่ยนั้นยังคงที่
ผู้ตอบแบบสอบถามได้ลงทุนไปด้วยจำนวนเงินมากกว่า 6.5 พันล้านยูโรตั้งแต่มีการเริ่มให้การร่วมทุนและลงทุนเพื่อสังคม (VP/SI) (เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2013) โดยเฉลี่ยแล้ว บริษัทที่ให้สัมภาษณ์แบ่งสรรเงินจำนวน 7.8 ล้านยูโรให้กับการร่วมทุนหรือการลงทุนเพื่อสังคม (VP/SI)
(The message in the bracket below is translation of the caption in the picture in the article – Translator)
[การสนับสนุนทางการเงินโดยเฉลี่ยที่ได้มาจาก องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคมแก่บริษัทที่ลงทุนในปีงบประมาณ 2555-2558]
2. องค์กรที่ให้การร่วมทุน (Venture Philanthropy Organisations: VPOsS) ลงทุนในหลากหลายภูมิภาคในหลายภาคส่วน
องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคมที่เราสำรวจนั้นเน้นการลงทุนในยุโรปตะวันตก โดยมีการลงทุนในทวีปเอเชีย 6%ของการลงทุนทั้งหมด ประเด็นทางสังคมที่ตั้งเป้ากันโดยมากได้แก่ประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมาแรงกว่าประเด็นด้านการเข้าถึงทรัพยากรทางการเงิน การศึกษา สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
เมื่อรวมกันแล้วงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาทั้ง 5 ด้านนี้ รวมเป็น 79% ของเงินลงทุนทั้งหมด
3. การลงทุนร่วมได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556
การลงทุนร่วมกับบริษัทพันธมิตร [องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคม(VPOs) หรือนักลงทุนที่เน้นผลการทบต่อสังคมเป็นอันดับแรก] มีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ได้มีการลงทุนร่วมในอดีต และหนึ่งในห้าของผู้ตอบแบบสำรวจเผยว่าสนใจที่จะลงทุนร่วมเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่เคยทำมาก่อน
(รูปภาพ)
4. องค์กรที่มีกองทุนและการลงทุนเพื่อสังคม (VP/SI) นั้นไม่ได้ขาดโอกาส ในการลงทุนและกำลังมีการพัฒนาในส่วนของขั้นตอนการคัดกรองข้อตกลง
ผู้ตอบแบบสอบถามได้คัดกรองกว่า 7520 ข้อเสนอที่มีศักยภาพ โดยเฉลี่ยแล้ว องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคม(VPO) นั้นจะคัดกรอง 86 องค์กร ทำการวิเคราะห์สถานะขององค์กรเป็นจำนวน 17 องค์กร และเลือกที่จะลงทุนกับ 9 องค์กร
5. การจัดสรรเงินทุนให้เหมาะสมคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในองค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคม (VPO) ในยุโรป
องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคมที่ตอบแบบสอบถามส่วนมากปรับเปลี่ยนแผนทางการเงินให้เป็นไปตามความต้องการของบริษัทที่ลงทุน โดย 60%ขององค์กร์ทั้งหมดนั้นทำทุกครั้งหรือทำเป็นประจำ
6. องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคม(VPOs) ไม่เพียงสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทที่ได้ลงทุน แต่ได้ให้การสนับสนุนที่ไม่ใช่ด้านการเงิน (NFS) อย่างหลากหลายอีกด้วย
การสนับสนุนที่ไม่ใช่ด้านการเงิน (NFS) ที่พบได้มากคือ การสนับสนุนเชิงกลยุทธ์และ ความช่วยเหลือด้านกลยุทธ์เพื่อก่อให้เกิดรายได้ ตามมาด้วยการสนับสนุนด้านการบริหารการเงิน
7. องค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคม(VPOs)มีความเข้าใจถึงวิธีจัดการให้เกิดผลกระทบทางสังคมมากขึ้น
96% ขององค์กรที่ลงทุนเพื่อสังคม(VPOs)ที่สำรวจชี้ว่าได้ประเมินประสิทธิภาพทางด้านสังคม ของบริษัทที่ได้ลงทุน/ผู้ได้รับประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำครั้งเดียวหรือสองครั้งต่อปีในช่วงระยะเวลาการลงทุน
หากท่านสนใจในการค้นพบที่สำคัญเหล่านี้ ท่านสามารถดูรายงานเชิงโต้ตอบแบบใหม่ของเราทาง
http://evpa.eu.com/uploads/publications/EVPA-Interactive-Report-30.11.2016.pdf
________________________________________
อะเลซเซีย เจียนอนเชลลี่ (Alessia Gianoncelli) เป็นผู้จัดการฝ่ายวิจัยของสมาคมนักลงทุนเพื่อสังคมแห่งยุโรป(EVPA) ที่กรุงบรัสเซลล์ เธอเคยทำงานที่สมาคมนักลงทุนเพื่อสังคมแห่งยุโรป(EVPA)โดยเป็นนักวิเคราะห์นโยบายและการวิจัย และนักวิเคราะห์โครงการ เธอกลับเข้าร่วมองค์กรอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2559 ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปี 2559 เธอได้เข้ารับการฝึกอบรมจากคณะกรรมาธิการยุโรปฝ่าย DG ECFIN หน่วย L2 ในด้านการจัดการทางการเงินเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นวัตกรรมและนโยบายการจ้างงาน
ก่อนหน้านี้ อะเลซเซียได้ฝึกงานที่หอการค้าอิตาลีในกรุงปารีสและ Unioncamere Piemonte ในกรุงบรัสเซลล์ ในปี 2551 ถึง 2558 เธอได้เป็นสมาชิกของ SeiPiù ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่อยู่ในพื้นที่ด้อยโอกาสของ เมืองTurin โดยได้ร่วมมือในฐานะผู้จัดการโครงการในปี 2556และ 2557 เธอมีประสบการณ์ในการเป็นอาสาสมัครมาสิบปี ในวงการ NGO และมีความสนใจในการจัดการผลกระทบทางสังคม อะเลซเซียสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์จากสถาบันและเขตปกครองจาก University of Turin และปริญญาโท 2 สาขาด้านการบริหารระหว่างประเทศ
และการจัดการดินแดนจาก UPEC ในปารีส